บัตรกดเงินสด ในปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในช่วงติดขัดเป็นอย่างมาก ด้วยปัญหาต่างๆ มากมายที่รุมเร้า ทั้งโรคระบาดทำให้ทั่วโลก ทำให้ประสบปัญหาทางด้านการเงิน ผู้คนเริ่มจับจ่ายใช้สอยกันน้อยลง ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างหมุนเงินไม่ทัน จึงต้องหันหน้าไปกู้เงินนอกระบบที่มีดอกเบี้ยมหาโหด ด้วยปัญหาต่างๆ ทางด้านการเงิน ทำให้หลายบริษัทจึงได้มีบัตรกดเงินสด หรือ สินเชื่อเงินสด เพื่อให้บุคคลที่มีปัญหาทางด้านการเงินได้มีเงินทุนหมุนเวียน ซึ่ง บัตรกดเงินสด ในประเทศไทยมีหลายบริษัทให้เลือก แต่บริษัทไหนจะดีที่สุด เรามีคำตอบมาให้..
ซึ่งก่อนจะไปดูบริษัทไหนคุ้มค่ากว่ากัน เรามาทำความรู้จักกับกับเจ้านี่กันก่อน บัตรกดเงินสด เป็นสินเชื่อบุคคลประเภทหนึ่งที่ทางบริษัทจะทำการออกบัตรคล้ายกับบัตรเอทีเอ็ม เพื่อให้สามารถนำไปกดเงินสดออกมา โดยจำนวนเงินสดที่สามารถกดได้นั้นขึ้นอยู่กับบริษัทว่า จะให้จำนวนเท่าไหร่ แต่จะไม่สามารถนำไปรูดซื้อสินค้าได้ เพราะเป็นคนประเภทกับบัตรเครดิตที่จะสามารถรูดซื้อสินค้าได้ หากต้องการกดเงินสดก็สามารถกดได้ที่ตู้เอทีเอ็มสาขาที่บริษัทกำหนดไว้
บัตรกดเงินสด ( สินเชื่อเงินสด ) ดีอย่างไร
- เป็นเงินสำรองยามฉุกเฉิน เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน ดังนั้น หากคุณมีบัตรสินเชื่อเงินสดอยู่ในมือ เมื่อเกิดการเจ็บป่วย รถเสียฉุกเฉิน หรือ ต้องการเงินด่วนคุณสามารถใช้ได้ทันทีไม่ต้องขอยืมจากใคร
- ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้คุณมีเงินหมุนเวียน เมื่อคุณชำระเงินแล้วก็สามารถที่จะกดเงินออกมาใช้จ่ายต่อได้ทันที ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่คุณ ทำให้คุณมีทุนหมุนเวียนอยู่ตลอด
- สมัครง่าย หลักฐานไม่ต้องเยอะ เพียงแค่มีสเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน หรือ สลิปเงินเดือน เพียงเท่านี้ก็สมัครได้แล้ว ไม่ต้องใช้บุคคลค้ำประกัน
- ยอดการชำระไม่มาก โดยชำระเงินยอดขั้นต่ำประมาณ3-5% ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก เมื่อเทียบกับการกู้ดอกเบี้ยโหดๆ แล้วนับว่า คุ้มค่ามาก!
- ลดต้นลดดอก เมื่อคุณชำระเงินต้นไปเท่าไหร่ สามารถนำมาลดดอกเบี้ยด้วย หากมีมากให้จ่ายมากดอกเบี้ยจะได้น้อยลง และชำระหมดโดยเร็ว
- บางบริษัทสามารถที่จะใช้ผ่อนสินค้าได้ แถมได้ดอกเบี้ยที่ถูก บางครั้งมีดอกเบี้ย0% นาน 12 หรือ 24 เดือนอีกด้วย
- หากคุณไม่กดเงินมาใช้ก็ไม่เสียดอกแต่อย่างใด ดังนั้น คุณไม่ต้องกังวลตราบใดที่คุณยังไม่กดเงิน คุณก็ไม่ต้องจ่ายค่าบริการอะไรทั้งสิ้น
- ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้ารายปีไม่เหมือนบัตรเครดิต
Top 5 บัตรกดเงินสด อนุมัติไว
- ยูเมะพลัส จาก อีซี่บาย
เป็นบัตรที่ออกมา สำหรับผู้มีรายได้ไม่มาก และต้องการการสภาพคล่อง บัตรอีซี่บายนี้ สามารถสมัครได้ง่าย เพียงมีเงินเดือนขั้นต่ำเพียง 7,000 บาท จ่ายคืนขั้นต่ำ 3% ซึ่งสามารถหักผ่านบัญชีกรุงไทยได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถกดขั้นต่ำได้ 100 บาท ซึ่งเหมาะสมมากสำหรับผู้ที่มีเงินไม่มาก และต้องการกดเงินหลักร้อย แถมฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีด้วยนะ
- กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
เป็นบัตรที่สามารถกดเงินสด และผ่อนสินค้าได้ด้วย มีวงเงินให้สูงสุดถึง 500,000 บาท โดยสมัครได้ง่ายๆ อนุมัติเร็วภายใน 30 นาทีเท่านั้น กดเงินสดได้ทุกธนาคารตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งการกดก็ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน และบัตรนี้สามารถผ่อนสินค้าได้ แถมยังได้ดอกเบี้ย 0% อีกด้วย คุ้มมาก!
- อิออน (AEON)
เป็นบัตรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถทำได้ตั้งแต่ผู้ที่มีฐานเงินเดือนขั้นต่ำเพียง 8,000 บาทเท่านั้น และฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมรายปี สามารถกดเงินสดได้ที่ตู้เอทีเอ็มได้หลากหลายสาขา สมัครง่ายไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน แถมบัตรยังมีหลายแบบด้วยกัน แต่ต่างกันที่วงเงิน และความสามารถของบัตรนะ
- บัตรซิตี้ เรดดี้เครดิต Citibank Ready Credit
เรียกว่า เป็นบัตรที่สามารถใช้ได้ทั้งกดเงินสด และผ่อนสินค้า รูดชอปปิงได้หมด แถมยังมีวงเงินอนุมัติที่สูงถึง สูงสุด 5 เท่าของรายได้ต่อเดือน หรือ สูงสุด 1,000,000 บาทเลยทีเดียว แต่สำหรับฐานเงินเดือน ค่อนข้างจะมากสักหน่อย คือ 15,000 บาท ส่วนการผ่อนนั้น คุณสามารถเลือกได้ทั้งผ่อนสั้นและผ่อนยาว
- KTC Proud
เป็นบัตรที่ให้วงเงินค่อนข้างสูง ซึ่งสูงถึง 5เท่าของรายได้ หรือ สูงสุด 3,000,000 บาท โดยคุณจะต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 12,000 บาทต่อเดือน เป็นบัตรที่สามารถกดเงินสด และรูดบัตรซื้อของได้ ทำให้สะดวกในการชอปปิงมากขึ้น กดเงินได้ผ่านทางตู้เอทีเอ็มได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าธรรมเนียมการถอน และชำระคืนขั้นต่ำ 3% ดอกเบี้ยเป็นแบบคงที่ 0.75% ต่อเดือนเท่านั้น นอกจากนี้ คุณยังขอเพิ่มวงเงินพิเศษได้ แต่ต้องเป็นไปตามกำหนดของธนาคาร โดยชำระค่างวดทาง 7-11 ได้อีกด้วย
สรุป
บัตรกดเงินสด สามารถช่วยให้คุณไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องการเงิน เมื่อคุณมีเหตุไม่คาดคิดที่ต้องการใช้เงินด่วน และยังช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับคุณได้ แต่อย่างไรก็ตาม บัตรสินเชื่อเงินสด ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากคุณบริหารการเงินไม่ดี ก็อาจทำให้คุณเดือดร้อนได้เช่นกัน ซึ่งควรใช้ยามฉุกเฉินเท่านั้น และหากจ่ายคืนเต็มจำนวนเงินที่กดออกมาได้ก็จะดีที่สุด เพราะหากจ่ายได้ไม่เต็มจำนวนดอกเบี้ยอาจจะแพงขึ้นไปอีก การสมัครก็ควรพิจารณาบริษัทที่ดอกเบี้ยไม่แพง ฐานเงินเดือนเท่าที่ควรสามารถทำได้ มีไว้ไม่เสียหาย เพราะไม่ใช้ก็ไม่ได้เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด